head prakardsod






























































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 7
1
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ ย้ายไปไหน เรามีรถบริการ

กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวและ  รถรับจ้างขนของกาฬสินธุ์ ในการ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายของ และ รับจ้างขนของ ทุกอย่าง ของแนะนำว่าขนส่งซึ่งเป็นผู้ให้บริการ รถรับจ้าง ที่บอกได้ว่ามีความลงตัวในการบริการ รถขนของ ที่ครอบคลุม  เพราะว่า ไม่ว่าลูกค้าจะมาเที่ยว หรือจะทำธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายของ ซึ่งปัจจุบันมีงานขนย้ายที่มากมายในจังหวัด เพราะว่าจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม หรือ พิพิธภัณฑ์ เขื่อนลำปาว หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ได้ไปสัมผัสและเที่ยวชมความเป็นธรรมชาติ เรายังมี รถรับจ้างจังหวัดกาฬสินธุ์  ให้ท่านได้ใช้บริการอีกด้วย มีทั้ง รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดกาฬสินธุ์ รถหกล้อรับจ้างขนของจังหวัดกาฬสินธุ์  รถสิบล้อรับจ้างขนของจังหวัดกาฬสินธุ์  รถเฮี๊ยบรับจ้างจังหวัดกาฬสินธุ์  รถเทรลเลอร์รับจ้างจังหวัดกาฬสินธุ์

เรามีรถให้บริการครบวงจร รับประกันความปลอดภัยได้เลยค่ะ เราบริการเป็นกันเองแถมราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยด้วยค่ะ ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ใครที่สนใจขนย้ายมาที่กาฬสินธุ์สามารถเรียกใช้บริการได้ เพราะในการขนย้ายในช่วงใกล้เทศกาลรถจะอาจจะเยอะและการสัญจรไปมาลำบาก เรียกใช้บริการเราได้เลย งานบริการทุกรูปแบบที่เกี่ยวกับการขนย้ายเรายินดีให้บริการ ด้วยประสบการณ์ในการขนย้ายเรามีความชำนาญมากพอในระยะเวลา 15 ปี ที่ให้บริการลูกค้า เราใส่ใจงานและลูกค้าเป็นอย่างมาก เพื่องานบริการจะได้ออกมาดีและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าลูกค้าจะ ย้ายบ้าน  ขนย้ายสำนักงาน  ย้ายหอพัก หรือขึ้นบ้านใหม่ เรามีบริการที่หลากหลาย เราไม่มีการเกี่ยงงานหรือทำสินค้าได้รับความเสียหาย

เราจะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ ถ้าสินค้าได้รับความเสียหาย ลูกค้าอาจจะติในเรื่องความปลอดภัยและการบริการไม่ดี ลูกค้าอาจจะไม่กลับมาใช้บริการเรา เราจึงจำเป็นต้องมีการเซฟความปลอดภัยในการขนย้ายให้ดี นั่นจึงเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้การบริการออกมาให้สมบูรณ์แบบ และเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการบริการของเรา ในเขตพื้นที่กาฬสินธุ์หรือพื้นที่ใกล้เคียงสามารถเรียกใช้บริการเราได้ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล งานใหญ่หรืองานเล็ก เราพร้อมที่จะให้บริการได้เสมอ แค่ท่านเลือกใช้บริการเราจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โทรมาที่เบอร์

รถรับจ้างขนของจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่เพียงแต่ให้บริการเรายังมีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย กาฬสินธุ์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เยอะมาก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเยอะมากจนรถสัญจรไปมาไม่ค่อยสะดวก แต่สถานที่ท่องเที่ยวมีความสวยงามไม่ได้มีแค่ที่เดียว เรามีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำให้ท่านดูและเลือกที่จะมาเที่ยว มีรายละเอียดดังนี้

รับจ้างขนของไปต่างจังหวัด

พิพิธภัณฑ์สิรินธร หรือ อุทยานโลกไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว
เรื่องราวของการค้นพบ โครงกระดูกไดโนเสาร์ ที่เก่าแก่กว่า 150 ล้านปี ที่มีความสมบูรณ์ และมากที่สุดในประเทศไทยพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูกุ้มข้าว วัดป่าสักกะวัน อ.สหัสขันธ์ ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบซากโครงกระดูกของไดโนเสาร์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร พิพิธภัณฑ์ เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น.ปิดให้บริการทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์

วัดพุทธนิมิตภูค่าว
วัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่า 2000 ปีและเป็นวัดที่อาจกล่าวได้ว่า งดงามที่สุดในกาฬสินธุ์วัดพุทธนิมิตภูค่าว คือว่า “ค่าว” เป็นภาษาอีสานแปลว่า เชือก เพราะวัดนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีลักษณะยาวเหมือนเชือก วัดนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัว อ.สหัสขันธ์ประมาณ 7 กิโลเมตร นอกจากนี้ภายในวัดยังมีอุโบสถไม้ แกะสลักลวดลายงดงามเป็นภาพพุทธประวัติสามมิติ  วิหารสังฆนิมิต ซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูป และพระเครื่องรุ่นต่างๆที่หายาก

3.เขื่อนลำปาว

เขื่อนดินขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งการประมง และการเกษตรที่สำคัญของกาฬสินธุ์นอกจากนี้ยังเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่หลบร้อนอันดับหนึ่งของกาฬสินธุ์ในช่วงหน้าร้อนถือว่าเป็นไฮซีซั่นของเขื่อนลำปาวเพราะจะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมายบริเวณเขื่อนมีทั้งกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น บานาน่าโบ๊ท เขื่อนลำปาวตั้งอยู่ที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์อยู่ห่างจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ประมาณ 36 กิโลเมตร

4.หาดดอกเกด

หาดดอกเกด เป็นสถานที่สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวมาชมความงามของอ่างเก็บน้ำลำปาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และในเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไกลและใกล้มาเที่ยวเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ ประชาชนในท้องถิ่นมีอาชีพและรายได้เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จึงขอความร่วมมือให้ช่วยกันดูแลบำรุงรักษาหาดดอกเกด ให้สวยงาม ยั่งยืนคงคู่กับเขื่อนลำปาวตลอดไป

5.พุทธสถานภูสิงห์

ตั้งอยู่บนยอดเขาภูสิงห์ ข้างบนเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย นามว่า "พระพรหมภูมิปาโล" อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวกาฬสินธุ์ มีลักษณะสง่างามและสวยงามมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย ดังจะเห็นว่าเมื่อแลไปที่พระพักตร์จะมีลักษณะอิ่มเอิบ ท่ามกลางบรรยากาศโดยรอบบริเวณขององค์พระพุทธรูปที่มีความสงบร่มรื่น สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ ทุกปีจะมีพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะในวันออกพรรษา โดยจะมีพระภิกษุเดินลงมาจากวัดพุทธาวาส ซึ่งตั้งอยู่ภูเขาภูสิงห์เพื่อมารอรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนทั่วไป
รถกระบะรับจ้างราคาถูก

อย่าลืมนะคะบริการ รถรับจ้างขนของราคาถูกกาฬสินธุ์ งานบริการที่คุรภาพ พร้อมพนักงานยกสินค้า ที่เก่งและชำนาญ ต้องเป็น ขนส่งเท่านั้นนะคะ เราบริการ รถกระบะรับจ้างขนของกาฬสินธุ์  รถหกล้อรับจ้างกาฬสินธุ์  รถสิบล้อรับจ้างกาฬสินธุ์  รถเฮี๊ยบรับจ้างกาฬสินธุ์  รถเทรลเลอร์กาฬสินธุ์

2
ไหว้พระ 9 วัด หนองคาย ทำบุญ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคล

หนองคาย เมืองของสายบุญใน ภาคอีสาน ที่น่าไปเยือนและไปทัวร์ทำบุญไหว้พระกันอย่างมากค่ะ จัดเต็มครบทั้ง วัดดัง วัดสวย ซึ่งหลายๆ คนต้องคุ้นหูคุ้นตาอย่างแน่นอนค่า เราก็รวมพิกัดมาเพื่อให้สายบุญตามเราไป ไหว้พระ 9 วัด หนองคาย นั่นเองค่า

รวมพิกัด ไหว้พระ 9 วัด หนองคาย เสริมดวง เสริมบุญ

1. ศาลาแก้วกู่ (วัดแขก)

     ศาลาแก้วกู่ หรือที่เรียกว่า วัดแขก นั้นเป็นที่ตั้งของความสวยงดงามของประติมากรรมปูนปั้น ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางศาสนานั่นเอง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาด้วยความศรัทธาและความเชื่อของ ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ หรือ ปู่เหลือ ที่ว่า ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้ โดยต้องการให้ศาลาแก้วกู่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่หมายถึง ดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงค่ะ ใครชอบงานประติมากรรรมสวยๆ แล้วยังเหมือนได้เที่ยวศาสนาแบบนี้ ห้ามพลาดเลยค่า

    ที่อยู่ : ถนนหนองคาย-โพนพิสัย ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10 , ต่างชาติ 40
    โทร : 08-1369-5744
    เว็บไซต์ : -



2. วัดผาตากเสื้อ

     อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดฮิตของหนองคาย ซึ่งนอกจากจะเป็นวัดสวยแล้ว ก็ยังเป็นจุดชมวิวสวยๆ ด้วย นั่นก็คือ วัดผาตากเสื้อ แห่งนี้ ซึ่งที่นี่นั้นมีจุดชมวิวสกายวอร์คแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่นั่นเองค่ะ โดยเราสามารถชมวิวมุมสูงได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียว สามารถเห็นแม่น้ำโขงได้ไกลสุดสายตาเลยค่ะ ส่วนตัววัดเองก็จะมีโบสถ์สวยๆ และบันไดพญานาคที่เป็นไฮไลท์อีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -


3. พระธาตุบังพวน

     มากันที่ พระธาตุบังพวน เป็นพระธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่และสำคัญต่อชาวหนองคาย และชาวอีสานอย่างมากค่ะ ซึ่งภายในจะประดิษฐาน วิหาร 3 หลัง พระอุโบสถ 1 หลัง สระน้ำ และบ่อน้ำแบบโบราณ อีกทั้งบรรยากาศภายในวัดก็ยังร่มรื่นมากอีกค่ะ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ต้องห้ามพลาดที่จะไปสักการะกันเลยค่า

    ที่อยู่ : ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


4. วัดโพธิ์ชัย

     วัดโพธิ์ชัย เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญของจังหวัดหนองคาย และยังประดิษฐานของ หลวงพ่อพระใส อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวหนองคายและชาวจังหวัดใกล้เคียงนั้น นับถือและเดินทางมาสักการะกันอย่างมากค่ะ เพราะถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวข้องกับทั้งชาวไทยและชาวลาวนั่นเองค่ะ รวมถึงวัดโพธิ์ชัยเองก็ยังเป็นวัดที่มีโบสถ์สวยงามอีกด้วย สายบุญห้ามพลาดเลยนะคะ

    ที่อยู่ : หนองคาย-โพนพิสัย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
    โทร : -


5. พระธาตุหล้าหนอง

     พระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุหนองคาย ที่อยู่กลางน้ำแห่งนี้ เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุโบราณเอาไว้ อายุหลายร้อยปีด้วยกัน โดยเมื่อก่อนนั้นเจดีย์จะอยู่บนฝั่งริมน้ำ อยู่ในเขตของ วัดพระธาตุหนองคาย แต่ในปี พ.ศ. 2390 นั้น ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเลยทำให้ไปอยู่กลางลำน้ำโขงแทนค่ะ ซี่งก็ได้มีการสร้าง พระธาตุหล้าหนอง รูปแบบจำลองเอาไว้บนฝั่งให้ได้ชมกันอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


6. วัดมณีโคตร

     วัดมณีโคตร เป็นวัดดังที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่ของเมืองโพนพิสัย นั่นก็คือ หลวงพ่อพระเสี่ยง เอาไว้ค่ะ โดยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่หล่อขึ้นมาจากทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก 8 นิ้ว สูง 24 นิ้ว หนักมากถึง 100 กิโลกรัมด้วยกันค่ะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และสวยงามอย่างมาก อีกทั้งหลวงพ่อเองก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับงานบุญบั้งไฟที่สำคัญของชาวอีสานด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-17.00 น.
    โทร : -


7. วัดศรีชมภูองค์ตื้อ

     วัดศรีชมภูองค์ตื้อ เป็นอีกวัดที่สำคัญอย่างมาก เพราะประดิษฐาน หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองหนองคายเอาไว้นั่นเองค่ะ โดยเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทองคำ ทองเหลือง และเงินผสมกัน ซึ่งสร้างขึ้นมาจากฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูง 4 เมตร ถ้าไปวัดนี้ก็ต้องไปสักการะ ไหว้ขอพรเพิ่มความสิริมงคลกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


8. วัดหินหมากเป้ง

     วัดหินหมากเป้ง เป็นอีกวัดที่มีวิวสวยๆ งามๆ ให้เราไปชมกัน เหมาะกับการไปนั่งปฏิบัติธรรม หรือมานั่งพักผ่อนจิตใจอย่างมากค่ะ และภายในวัดนั้นก็จะมีเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่เอาไว้ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร และชีวประวัติของท่านอีกด้วยเช่นกันค่ะ อึกทั้งยังมีวิวสวยๆ ริมแม่น้ำโขงให้เราได้ชมกันเพลินๆ ไปอีกด้วย

    ที่อยู่ : ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


9. วัดอรัญบรรพต

     วัดอรัญบรรพต เป็นวัดอีกแห่งที่มีทั้งวัดสวย และพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วยกัน รวมถึงยังมีเจดีย์ที่มีชื่อว่า พระสุธรรมเจดีย์ ภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้อีกด้วยค่ะ ซึ่งที่นี่ก่อสร้างโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อถวายแก่หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เกจิอาจารย์ ที่มีศิษย์มากมายนั่นเองค่ะ อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนาเช่นเดียวกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -

3
Mitsubishi Triton 2024: เปิดตัวทีเซอร์รถกระบะรุ่นใหม่ “ออล-นิว ไทรทัน” พร้อมแคมเปญพิเศษ

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวทีเซอร์รถกระบะรุ่นใหม่ “ออล-นิว ไทรทัน” พร้อมประกาศแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) สุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะลูกค้าในไทย ก่อนเผยโฉมเต็มตารอบเวิลด์พรีเมียร์ในประเทศไทย และประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยผู้สนใจซื้อรถปิกอัพ “ออล-นิว ไทรทัน” สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากแคมเปญ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” ได้ตั้งแต่ 20 มิถุนายน ถึง 25 กรกฎาคม 2566 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อัดแน่นนด้วย 3 ข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ทั้งชุดแต่งแท้รอบคัน เสริมพลังหล่อเข้มเต็มพิกัด และชุดของขวัญรุ่นลิมิเต็ด “ออล-นิว ไทรทัน ลิมิเต็ด บ็อกซ์เซ็ต” พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ ทริปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างจุใจ รวมทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 240,000 บาท

มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “รถกระบะออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน นี้ จะมาพร้อมเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง แรงเต็มขั้น แต่ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น พร้อมด้วยแชสซีส์ใหม่ยกชุดที่จัดเต็มความแข็งแกร่งทนทาน ยกระดับสู่อีกขั้นของการขับขี่ที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ควบคุมง่ายคล่องตัว สะดวกสบายและปลอดภัยกว่าด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองและบนเส้นทางออฟโรด ภายในห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย และยังมีพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานตามไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบและการบรรทุกเชิงพาณิชย์”

“เราต้องการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะใหม่ในทุกมิติ ของ ออล-นิว ไทรทัน ทั้งด้านคุณภาพที่เหนือชั้น และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า และเชื่อมั่นว่าโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ ออล-นิว ไทรทัน นี้ จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงใจ พร้อมให้ท่านได้เป็นเจ้าของรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุดในโลกก่อนใคร เพราะประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่จะวางจำหน่ายรถปิกอัพ ออล-นิว ไทรทัน นี้ หลังจากนั้นจึงจะส่งออกไปยังนานาประเทศทั่วโลก ดังนั้น ลูกค้ากลุ่มแรกที่ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษสำหรับ ออล-นิว ไทรทัน จะได้รับของขวัญพิเศษสุดคุ้มที่เราตั้งใจมอบให้ และยังได้รับรถไปใช้งานก่อนใครๆ อีกด้วย โดยท่านที่สนใจสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับราคารถกระบะ ออล-นิว ไทรทัน รุ่นต่างๆ

แคมเปญ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษสำหรับรถกระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2566 จนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 23:59 น. ผ่านทางระบบออนไลน์โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ* ดังนี้

ต่อที่ 1 สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษรถกระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นดับเบิ้ลแค็บ กระบะสี่ ประตู ยกสูง จะได้รับชุดแต่งแท้รอบคัน “เทรล แพ็กเกจ” (TRAIL Package) เสริมพลังหล่อเข้มเต็มพิกัด มูลค่ากว่า 40,000 บาท ประกอบด้วย สปอร์ตบาร์สีดำ ชุดตกแต่งซุ้มล้อบังโคลน พื้นปูกระบะ คิ้วกันกระแทกประตู คิ้วกันสาด และโลโก้ “MITSUBISHI” ตกแต่งกระจังหน้าสีโครเมียมครบชุดสุดเท่ และสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียน รุ่นซิงเกิ้ลแค็บ ตอนเดียว ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD จะได้รับเงินสนับสนุนค่าเปลี่ยนล้ออัลลอยและ/หรือยางรถยนต์ (Wheel & Tires Package) ตามจริงหรือสูงสุด 20,000 บาท ให้คุณเติมความเท่สุดแกร่ง แต่งล้อแรงเสริมหล่อได้อย่างไม่ซ้ำใคร โดยลูกค้าจะต้องทำสัญญาจองซื้อรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 และรับมอบรถภายใน 31 ตุลาคม 2566

ต่อที่ 2 สำหรับลูกค้าที่รับรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน 1,000 ท่านแรก จะได้รับชุดของขวัญรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น “ออล-นิว ไทรทัน ลิมิเต็ด บ็อกซ์เซ็ต” ซึ่งสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ โดยลูกค้าจะต้องทำสัญญาจองซื้อรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 และรับมอบรถภายใน 31 ตุลาคม 2566

และสำหรับลูกค้าที่รับรถภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 รับสิทธิพิเศษต่อที่ 3 ลุ้นรางวัลใหญ่ เที่ยวญี่ปุ่นอย่างจุใจไปกับ “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แฮปปี้ทริป อินเจแปน (ALL-NEW MITSUBISHI TRITON HAPPY TRIP IN JAPAN) จำนวน 20 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง รวม 40 ที่นั่ง ซึ่งการเดินทางจะพาชมศูนย์การวิจัยและพัฒนารถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และพิพิธภัณฑ์ยานยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในเมืองโอกาซากิ เที่ยวชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลก พร้อมชมภูเขาไฟฟูจิ นั่งรถไฟชินคันเซน และตะลุยสีสันแห่งโตเกียวไปกับคนรู้ใจ

4

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ


5
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



6
7 อาหารสุขภาพ อิ่มท้องนาน สายไดเอตบอกเลยห้ามพลาด

สาวๆ ที่อยู่ในช่วงของการไดเอต หลายครั้งก็มีความกังวลกับประเภทของอาหารที่จะกินเข้าไป เพราะเกรงว่าอาหารเหล่านั้นจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ วันนี้เราจึงรวมอาหาร 7 ชนิดที่มีส่วนช่วยให้อิ่มท้องนาน และจัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กำลังไดเอตมาฝากกันค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอาหารชนิดใดบ้าง

1.ลูกแพร์
ลูกแพร์อุดมด้วยไฟเบอร์เพคติน 24% ซึ่งถือเป็นปริมาณของไฟเบอร์ที่สูงกว่าที่มีอยู่ในแอปเปิลเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ในส่วนของเปลือกลูกแพร์อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายเลยทีเดียว เพราะมีสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง แถมยังมีส่วนช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรงอีกด้วย ดังนั้นถ้าสาวๆ ต้องการกินลูกแพร์ แนะนำให้กินพร้อมเปลือกจะดีที่สุด

2.ส้ม
ส้มก็ถือเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยให้อิ่มท้องนานเช่นกัน นั่นเป็นเพราะมีกากใย โดยในส่วนของกากใยนั้นอุดมด้วยไฟเบอร์เพคตินอยู่ประมาณ 70% ดังนั้นเมื่อสาวๆ กินส้ม อย่าเผลอไปดึงกากใยออกเชียวนะคะ แนะนำให้กินพร้อมกากใยไปเลย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างไฟเบอร์เพคตินนั่นเอง

3.ถั่วแดง
ถั่วแดง จัดเป็นอาหารที่ให้โปรตีนเท่ากับการกินเนื้อสัตว์เลยก็ว่าได้ โดยปริมาณของถั่วแดง 1 ถ้วยตวง ให้โปรตีนเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ 2 กรัม ซึ่งถือว่าสาวๆ สามารถกินถั่วแดงแทนการกินเนื้อสัตว์ได้เลย ที่สำคัญการกินถั่วแดงช่วยให้ร่างกายได้รับแคลอรีต่ำและยังช่วยให้อิ่มท้องนาน

4.กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวอุดมด้วยไฟเบอร์ประมาณร้อยละ 10 จัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการกินในช่วงไดเอตอย่างมาก เนื่องจากในกระเจี๊ยบเขียวจะมีปริมาณแคลอรีเพียง 30 กิโลแคลอรี แถมยังจัดเต็มไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โฟเลต และธาตุเหล็ก ที่สำคัญหากสาวๆ กินกระเจี๊ยบเขียวในช่วงลดน้ำหนัก จะช่วยให้สามารถต้านความหิวได้ตลอดวันเลยทีเดียว

5.กะหล่ำดาว
กะหล่ำดาวอุดมด้วยไฟเบอร์ร้อยละ 16 พร้อมทั้งให้แคลอรีต่ำ ทั้งนี้การเอากะหล่ำดาวประมาณ 156 กรัมมาปรุงสุกและกินในช่วงไดเอต จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียง 56 กิโลแคลอรีเท่านั้น แต่ยังคงช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนาน

6.โอ๊ตมีล
โอ๊ตมีลจัดเป็นอาหารที่กลุ่มคนไดเอตนิยมกินกันมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องนานแล้ว ยังช่วยลดความอยากกินจุบจิบได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้แนะนำให้กินคู่กับผลไม้หรือธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่หลากหลาย

7.ข้าวบาร์เลย์
ข้าวบาร์เลย์มีไฟเบอร์สูงถึงร้อยละ 75  โดยสาวๆ สามารถเอาข้าวบาร์เลย์มาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ได้มากมาย ทั้งนี้แนะนำให้กินคู่กับสลัดผัก จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย สำหรับสาวๆ ที่กินข้าวบาร์เลย์ในช่วงไดเอต จะช่วยให้กากใยถูกย่อยแตกตัวเป็นกรดบิวไทลิก ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง พร้อมทั้งช่วยบำรุงหัวใจ ถือเป็นการกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักที่มาพร้อมกับการป้องกันโรคร้ายเลยก็ว่าได้

เอาเป็นว่าถ้าสาวๆ มีความตั้งใจจะไดเอต แต่ก็ไม่สามารถบอกลาการกินของอร่อยๆ ไปได้ แนะนำให้กินอาหาร 7 ชนิดนี้ในช่วงที่กำลังลดน้ำหนักดูค่ะ บอกเลยว่านอกจากจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้สำเร็จแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายอีกด้วย

7
ข้อดีของการจัดฟันเด็ก EF LINE ที่จะทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก จะเห็นได้ว่า เด็กในสมัยนี้เราจะพบว่ามีเด็กและวัยรุ่นหลายคนที่นิยมจัดฟันจนดูเหมือนทำตามแฟชั่น ทั้งที่จริงแล้วการจัดฟันในเด็กเป็นไปเพื่อแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง หลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจว่าสภาพฟันแบบไหนที่ควรจะเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันในเด็ก ถือว่าได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเด็กไทยมักจะมีฟันผุเพราะรูปแบบการเลี้ยงดูของครอบครัวและการรับประทานอาหารของเด็กในวัยนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุมาก


รวมไปถึงพฤติกรรมที่มีในวัยเด็กก็ส่งผลทำให้เกิดปัญหาฟันได้เช่นเดียว ซึ่งพฤติกรรมในวัยเด็กที่ส่งผลทำให้เกิดปัญหา อันได้แก่ พฤติกรรมการดูดนิ้ว พฤติกรรมการดูดขวดนม ซึ่งยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อใบหน้า และขากรรไกรในเด็กด้วย อย่างไรก็ตาม การให้การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันนั้นมีหลายช่วงอายุ ซึ่งต้องพิจารณาตามความผิดปกติและพัฒนาการของกะโหลกศีรษะและใบหน้าร่วมด้วย โดยมีแนวทางพิจารณาดังนี้ หากมีความผิดปกติของความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรบน-ล่าง ก็ควรจะเริ่มการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามไปยังฟันข้างเคียงได้
 

ซึ่งการจัดฟันในเด็กที่สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของกล้ามเนื้อของใบหน้า และปัญหาฟันในเด็กได้นั้น ก็คือ การจัดฟันในเด็กโดยเครื่องมือ EF LINE หรือการจัดฟันในเด็กแบบเครื่องมือติดแน่น แต่วันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงข้อดีของการจัดฟัน EF LINE ที่จะทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งถือว่าเครื่องมือ EF LINE ถือว่าเป็นเครื่องมือจัดฟันในเด็กที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 3-4 ขวบ เพราะเครื่องมือจัดฟันแบบ EF LINE มีลักษณะเป็นชิ้นยางที่เด็กสามารถสวมใส่ได้สะดวกสบาย เพราะเด็กบางรายที่มีความเคยชินบางอย่าง เช่น ดูดนิ้ว แกะเล็บ กัดริมฝีปาก หายใจทางปากเป็นประจำ หรือมีการกลืนที่ผิดปกติ อุปนิสัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเรียงตัวของฟัน หรืออาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกรที่ผิดปกติ


ทำให้ต้องมารับการจัดฟันเร็วขึ้น เพื่อป้องกันหรือแก้ไขความผิดปกติเหล่านั้น ดังนั้น EF line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ

ซึ่งหากเด็กไม่มีปัญหาเหล่านี้ นอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว ยังสามารถช่วยทำให้เด็กมีความกล้าแสดงออก มีความมั่นใจ และยังช่วยทำให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย เพราะการที่บุตรหลานของท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดี แน่นอนว่าส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้เป็นอย่างดี และการพาเด็กเข้ารับการจัดฟันนั้น จะเป็นการปลูกฝังทำให้เด็กรู้จักการทำความสะอาดช่องปากและฟัน เป็นการสร้างทัศนคติที่ดีให้กับเด็ก ทำให้เด็กคุ้นชินกับการเข้าพบทันตแพทย์ ลดปัญหาในเรื่องของเด็กกลัวทันตแพทย์ด้วย


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก รวมถึงมีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมในเด็ก และยังสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะคลินิกก็ได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยนี้มาใช้ กับเด็กเล็กที่มีอาการผิดปกติทางด้านโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่เป็นต้นเหตุหลักทำให้ใบหน้าผิดรูป รวมถึงการสบฟันผิดปกติในเด็กเล็ก ไม่เว้นแม้แต่พฤติกรรมที่ทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปากในอนาคตอีกด้วย

8
Doctor At Home: ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension-type headache/TTH)

ปวดศีรษะจากความเครียด* (ปวดศีรษะแบบตึงเครียด ก็เรียก) เป็นภาวะที่พบได้บ่อย ประมาณร้อยละ 80-90 ของผู้ที่มีอาการปวดศีรษะ จะมีสาเหตุจากโรคนี้

โรคนี้พบได้ในทุกวัย มักเริ่มอาการครั้งแรกตั้งแต่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว (มีโอกาสน้อยมากที่จะมีอาการครั้งแรกหลังอายุ 50 ปี) และพบมีอาการกำเริบบ่อยในช่วงอายุ 20-50 ปี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 1.5-2 เท่า

* มีชื่อเรียกอื่น เช่น tension headache, muscle contraction headache, psychogenic headache, psychomyogenic headache

สาเหตุ

แต่เดิมเชื่อว่าเกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและใบหน้า ปัจจุบันพบว่า ภาวะดังกล่าวเป็นอาการแสดงของโรคไม่ใช่สาเหตุ ส่วนสาเหตุและกลไกการเกิดโรคที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าเกิดจากการกระตุ้นของสิ่งเร้าที่กล้ามเนื้อและพังผืดบริเวณรอบกะโหลกศีรษะ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการทำงานของระบบประสาทเกิดขึ้นตรงประสาทส่วนกลาง (อาจเป็นที่บางส่วนของไขสันหลังหรือเส้นประสาทสมองเส้นที่ 5) แล้วส่งผลกลับมาที่เนื้อเยื่อรอบกะโหลกศีรษะ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว หรือมีการเปลี่ยนแปลงของสารส่งผ่านประสาท (เช่น ซีโรโทนิน เอนดอร์ฟิน โดพามีน) ในเนื้อเยื่อดังกล่าว ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ

ส่วนใหญ่มักพบว่ามีสาเหตุกระตุ้น ได้แก่ ความเครียด (มักจะเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ หลังจากคร่ำเคร่งกับการงาน) หิว (กินอาหารผิดเวลา) อดนอน ตาล้าหรือเพลีย (eyestrain)

นอกจากนี้ยังอาจพบร่วมกับโรคไมเกรน โรควิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ความผิดปกติทางอารมณ์หรือการปรับตัว

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตื้อ ๆ หนัก ๆ ที่ขมับ หน้าผาก กลางศีรษะหรือท้ายทอยทั้ง 2 ข้าง หรือทั่วศีรษะ หรือปวดรอบศีรษะคล้ายเข็มขัดรัด นาน 30 นาทีถึง 1 สัปดาห์ ส่วนใหญ่มักจะเป็นนานเกิน 24 ชั่วโมง บางรายอาจนานเป็นสัปดาห์ ๆ หรือเป็นแรมเดือน โดยอาการปวดจะเป็นอย่างคงที่ ส่วนใหญ่จะปวดเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนน้อยอาจรุนแรงจนเป็นอุปสรรคต่อกิจวัตรประจำวัน ผู้ป่วยจะไม่มีคลื่นไส้ อาเจียน และไม่เป็นมากขึ้นเมื่อถูกแสง เสียง กลิ่น หรือมีการเคลื่อนไหวของร่างกายแบบไมเกรน

ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะตั้งแต่หลังตื่นนอนหรือในช่วงเช้า ๆ บางรายอาจปวดตอนบ่าย ๆ หรือเย็น ๆ หรือหลังจากได้คร่ำเคร่งกับงานมาก หิวข้าว หรือขณะมีเรื่องคิดมาก วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ


ภาวะแทรกซ้อน

อาจมีผลต่อจิตใจ เช่น ความวิตกกังวล เบื่องาน แยกตัวจากสังคม เสียสมาธิ กระทบต่อการงานหรือการเรียน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการเป็นหลัก

การตรวจร่างกายมักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

บางรายอาจพบอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อหรือจุดที่กดเจ็บในบริเวณรอบ ๆ ศีรษะ ท้ายทอย หลังคอ หรือไหล่

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคปวดศีรษะจากความเครียด

1. มีอาการปวดศีรษะมาอย่างน้อย 10 ครั้ง ซึ่งมีลักษณะเข้าได้กับข้อ 2-4*

2. ปวดแต่ละครั้งนาน 30 นาทีถึง 1 สัปดาห์

3. มีลักษณะต่อไปนี้อย่างน้อย 2 อย่าง

    ปวดแบบตื้อ ๆ หนัก ๆ หรือบีบรัด ไม่ปวดตุบ ๆ
    รุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลาง (ไม่เป็นอุปสรรคต่อกิจวัตรประจำวัน)
    ปวดพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง
    ไม่ปวดมากขึ้นเวลาขึ้นบันได หรือมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย

4. มีลักษณะต่อไปนี้ทั้ง 2 อย่าง

    ไม่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
    ไม่มีอาการกลัวแสง และกลัวเสียง หรือมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น


* ถ้ามีอาการปวดศีรษะน้อยกว่า 15 วัน/เดือน เรียกว่า โรคปวดศีรษะจากความเครียดชนิดครั้งคราว (episodic tension-type headache) แต่ถ้ามีอาการมากกว่า 15 วัน/เดือน เรียกว่า โรคปวดศีรษะจากความเครียดชนิดเรื้อรัง (chronic tension-type headache)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. แนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว และให้ยาแก้ปวด หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์

ถ้ามีอาการนอนไม่หลับ ให้ยานอนหลับ กินก่อนนอน

ในรายที่มีความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า ก็ให้การดูแลรักษาแบบเดียวกับโรคกังวลทั่วไป หรือโรคซึมเศร้า

2. ถ้าปวดรุนแรง ปวดถี่หรือปวดแรงขึ้นทุกวัน ปวดมากตอนดึกหรือเช้ามืดจนทำให้สะดุ้งตื่น เป็น ๆ หาย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดนานเกิน 2 สัปดาห์ หรือสงสัยว่าอาจมีสาเหตุร้ายแรง แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด เช่น ถ่ายภาพสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

3. ถ้าเป็นโรคปวดศีรษะจากความเครียดที่ดื้อต่อยาแก้ปวด แพทย์อาจให้การรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น กายภาพบำบัด เทคนิคการผ่อนคลาย (relaxation technique) จิตบำบัด การกระตุ้นประสาทด้วยไฟฟ้า (TENS) การฉีดสารโบทูลิน (มีชื่อการค้า เช่น Botox) การฝังเข็ม เป็นต้น

4. ในรายที่มีอาการกำเริบ มากกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ และแต่ละครั้งปวดนานมากกว่า 3-4 ชั่วโมง หรือปวดรุนแรง หรือต้องใช้ยาแก้ปวดบ่อยมาก แพทย์อาจพิจารณาให้กินยาป้องกัน ได้แก่ อะมิทริปไทลีน,ฟลูออกซีทีน หรือ โทพิราเมต ติดต่อกันนาน 1-3 เดือน

การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปวดศีรษะจากความเครียด  ควรดูแลตนเองดังนี้

    นอนหลับหรือนั่งผ่อนคลายอารมณ์สักพักหนึ่ง นวดต้นคอและขมับด้วยมือหรือทานวดด้วยยาหม่อง ประคบด้วยความร้อนหรือความเย็น
    กินยาแก้ปวด - พาราเซตามอล* หรือยาที่แพทย์แนะนำ

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ปวดศีรษะรุนแรง เวียนศีรษะมาก อาเจียนมาก หรือมีไข้สูง
    ปวดถี่หรือปวดแรงขึ้นทุกวัน ปวดมากตอนดึกหรือเช้ามืดจนทำให้สะดุ้งตื่น
    มีอาการตาพร่ามัวไม่หาย หรือ ตาเห็นภาพซ้อน
    แขนขาชา อ่อนแรง เดินเซ หรือ ชักกระตุก
    มีความคิดฟุ้งซ่าน อารมณ์เครียดหรือซึมเศร้า หรือนอนไม่หลับ
    มีประวัติการแพ้ยา สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรือมีโรคตับ โรคไต หรือประจำตัวอื่น ๆที่มีการใช้ยาหรือแพทย์นัดติดตามการรักษาอยู่เป็นประจำ
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    ดูแลตนเอง 1 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลา
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดศีรษะจากความเครียดเป็นประจำ ควรปฏิบัติตัว ดังนี้

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน
    อย่าคร่ำเคร่งกับการงานจนเกินไป ควรพักทำงานเป็นระยะ ๆ
    หลีกเลี่ยงการใช้สายตาจนเมื่อยล้า ถ้าทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออ่านเอกสารหนังสือ ควรนั่งในท่าที่เหมาะสม ควรพักสายตาและเคลื่อนไหวหรือบริหารกล้ามเนื้อคอเป็นครั้งคราว
    อย่าปล่อยให้หิว หรือกินอาหารผิดเวลา
    ออกกำลังกายเป็นประจำ
    หาทางผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น สวดมนต์ ทำสมาธิ ฝึกโยคะ รำมวยจีน ฟังเพลง เป็นต้น

ข้อแนะนำ

1. ปวดศีรษะจากความเครียด ถือเป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่อาจเป็น ๆ หาย ๆ ได้บ่อย อย่างไรก็ตาม ก่อนจะวินิจฉัยโรคนี้ ควรตรวจวัดความดัน และตรวจดูอาการให้ถ้วนถี่จนแน่ใจว่าไม่มีสาเหตุที่ร้ายแรงเสียก่อน

2. ปวดศีรษะจากความเครียด ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดตื้อ ๆ หนัก ๆ ที่ขมับ หน้าผาก กลางศีรษะหรือท้ายทอยทั้ง 2 ข้าง หรือทั่วศีรษะ หรือปวดรอบศีรษะคล้ายเข็มขัดรัด ปวดแบบคงที่และยังทำงานได้เป็นปกติ ไม่มีอาการปวดตุบ ๆ หรือคลื่นไส้อาเจียน

ประมาณร้อยละ 10-20 ของผู้ป่วยที่ปวดศีรษะจากความเครียด อาจมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวคล้ายไมเกรน (ซึ่งจะมีอาการปวดตุบ ๆ ที่ขมับ) ซึ่งบางครั้งอาจแยกกันไม่ชัด หรืออาจพบร่วมกัน ก็ควรให้การรักษาแบบไมเกรนไปพร้อมกันด้วย

3. ในรายที่เป็นเนื้องอกสมองระยะแรกอาจมีอาการปวดศีรษะไม่มาก คล้ายปวดศีรษะจากความเครียดก็ได้ แต่ต่อมาจะปวดถี่ขึ้นและแรงขึ้น มักจะปวดตอนดึกหรือเช้ามืดจนทำให้สะดุ้งตื่นทุกวัน และเป็นเรื้อรัง ดังนั้นถ้าพบคนที่มีอาการปวดศีรษะในลักษณะดังกล่าว หรือเป็น ๆ หาย ๆ นานเกิน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์

4. ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หากมีอาการปวดศีรษะจากความเครียด อาจมีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กระดูกคอเสื่อม การบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอ การอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง เป็นต้น จึงควรค้นหาและแก้ไขภาวะเหล่านี้ พร้อมกันไปด้วย

5. การใช้ยาแก้ปวดในการรักษาโรคนี้บ่อยเกินไปอาจเป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะจากการขาดยา (rebound headache) ได้ จึงควรระวังอย่าใช้ยามากเกิน และควรเน้นที่การปฏิบัติตัวต่าง ๆ

6. ผู้ที่เป็นโรคปวดศีรษะจากความเครียดชนิดเรื้อรัง อาจมีสาเหตุจากโรคซึมเศร้าแฝงเร้นอยู่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจดูอาการของโรคซึมเศร้า และให้การรักษาภาวะนี้ร่วมไปด้วย


9
พูดคุยเรื่องทั่วไป / รถยนต์ไฟฟ้า Aion-Y Plus 410 premium-ปี 2024
« เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2024, 16:44:24 น. »
รถยนต์ไฟฟ้า Aion-Y Plus 410 premium-ปี 2024
895,900 บาท 

Aion-Y Plus 410 premium-ปี 2024
Aion Y Plus 410 Premium เป็นรถรุ่นไฮไลต์ยอดนิยมของ AION ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากนับตั้งแต่การเปิดตัว โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP ชั้นนำของอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มนี้รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ความปลอดภัยสูง AION Y Plus ยังมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ความชาญฉลาดขั้นสูง และความสวยงามที่น่าดึงดูด ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ AION Y Plus กลายเป็นรุ่นที่ขายดีได้ไม่ยาก

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Aion
   รุ่น                 Aion-Y Plus 410 premium-ปี 2024
   ประเภทรถ        Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว         2024
   ราคา             895,900 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ระบบควบคุมระยะการจอด (เรดาห์ท้ายรถ)
ราวหลังคา (สีเงิน)
ไฟหน้า LED
ไฟท้าย LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (เปิด-ปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า)
ขนาดยางหน้า-หลัง (215/50 R18)
ไฟ Daytime Running Lights (LED)
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (มีหลายโทนสี)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
ม่านบังแดด (เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (โหมดการขับขี่ ECO / Normal / Sport)
พวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า               มอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)  แรงม้า
   ระบบเกียร์                   เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS           มี
   ชนิดแบตเตอรี่             ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่            50.66 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง  410 กม. (มาตรฐาน NEDC)
  น้ำหนักตัวรถ                     1,670 กก.
   ประเภทยางรถยนต์             -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                 ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
กุญแจรีโมท (Smart Keyless Entry)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
ระบบป้องกันสำหรับกระจกไฟฟ้า (ป้องกันการหนีบ)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน,ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ)
เข็มขัดนิรภัย
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
กล้อง (มองภาพรอบคัน 360 องศา)
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB)
เบรกมือไฟฟ้า (และ Auto Brake Hold)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย (เบาะนั่งคู่หน้า)

10
โทรศัพท์มือถือใหม่ 2024: เรียลมี realme GT6T (12GB+256GB)
18,999 บาท 

เรียลมี realme GT6T (12GB+256GB)
จอแสดงผล Hyper Display 6000 นิต จอสมาร์ตโฟนที่สว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ชิปเซ็ตระดับแฟลกชิป Snapdragon® 7+ Gen 3 ชิปเซ็ต Snapdragon รุ่นใหม่ล่าสุด
ระบบระบายความร้อนชั้นนำ Iceberg Vapor Cooling System
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5500mAh มาตราฐานสมาร์ตโฟนแฟลกชิปสมัยใหม่
ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 120W ชาร์จไว เร็วเแรง
RAM 12GB + ความจุในตัวเครื่อง 256GB ช่วยให้เครื่องทำงานราบรื่นได้นานหลายปี

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น           เรียลมี realme GT6T (12GB+256GB)
   ราคากลาง        18,999 บาท
   จำนวนซิม        2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์        จอสัมผัส
   สี                 Silver(Fluid Silver), Green(Razor Green)

   ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก           ยาว 162 x กว้าง 75.1 x หนา 8.65 มม., น้ำหนัก 191 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ         ความจุแบตเตอรี่ 5,500 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ          จอสัมผัส ()
   ความละเอียด   6.78 นิ้ว, 1,264 x 2,780 px

   รายละเอียดอื่น
จอแสดงผลสว่าง 6000 นิต
ขนาด: 6.78 นิ้ว (17.22 ซม.)
ความสว่าง: 1000 นิต (ปกติ) / 1600 นิต (โหมดสว่าง) / 6000 นิต (สูงสุด)
อัตราการรีเฟรชหน้าจอ: สูงสุด 120Hz
Touch Sampling Rate: สูงสุดถึง 2500Hz
อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง: 94.2%
อัตราส่วนคอนทราสต์: 5,000,000 : 1
ขอบเขตการแสดงสี: 100% DCI-P3
ความลึกของสี: 1.07 พันล้านสี
เทคโนโลยีปกป้องจอภาพ: GGV2

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                          -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)              Snapdragon? 7+ Gen 3
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)     Adreno? 732 @950MHz
   หน่วยความจำ (RAM)                12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก               USB(Type-C), Bluetooth, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                   -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต           3G, WiFi, 4G, 5G

11
จัดฟันบางนา: สุขภาพช่องปากและฟันที่ดี สังเกตได้อย่างไร

เชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า สุขภาพช่องปากมีความสำคัญมากมายกับชีวิตทั้งชีวิตของเรา ซึ่งในปัจจุบันนี้มีคนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจต่อสุขภาพช่องปากมากยิ่งขึ้น แถมนวัตกรรมทางทันตกรรมก็ถือได้ว่าทันสมัยมากขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการศึกษาและวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังให้ทุกคนมีคุณภาพช่องปากที่ดี แต่เชื่อว่ามีหลายท่านน่าจะเคยเกิดความสงสัยว่า ดูแลช่องปากอย่างดีแต่ทำไมยังมีอาการต่างๆเกิดขึ้นในช่องปากได้ และจะมีวิธีการดูอย่างไรว่าสุขภาพช่องปากและฟันมีสุขภาพที่ดี

ในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาเรียนรู้ ทำความรู้จัก และ วิธีสังเกต ว่าสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เป็นอย่างไร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

สุขภาพช่องปากและฟันที่ดี หมายความว่าอย่างไร ?

หากว่ากันตามพื้นฐานเพื่อให้ท่านสามารถสังเกตสุขภาพช่องปากและฟัน ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือไม่นั้น สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ แค่ 3 วิธีหลักๆ ดังต่อไปนี้

– ฟันทั้งหมด ด้านนอกและด้านใน มีความขาวดูสะอาด ไม่มีเศษอาหารหรือวัตถุแปลกปลอมติดแน่นหรือฝังอยู่ทั้งในฟัน หรือซอกฟัน

– เหงือกมีสีชมพูสว่าง ไม่หมอง เมื่อจับกดหรือในเวลาบดเคี้ยวอาหารไม่มีอาการเจ็บปวด ไม่มีเลือดออกตามซอกเหงือกในขณะที่กำลังแปรงฟัน หรือในขณะขัดฟัน

– ไม่มีปัญหาเรื่องของกลิ่นปาก อันนี้ถือว่าสำคัญไม่ต่างกับวิธีอื่นๆ เพราะ กลิ่นปากนั้นถือได้ว่าเป็นสัญญาณเตือนในการเกิดโรคต่างๆในช่องปากมากมาย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเหงือก หรือฟันก็ตาม เพราะเหตุนี้เมื่อมีกลิ่นปากจึงควรระวังไว้ด้วย


ต้องทำอย่างไร ถึงจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ?

ต้องทราบก่อนว่าการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีนั้น คือการที่ปกป้องฟันและเหงือกให้อยู่ในสภาพที่ดีและเป็นปกติไม่เกิดปัญหาใดๆ

ซึ่งการที่เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีแข็งแรงนั้น จะช่วยให้ท่านสามารถรับประทานอาหารได้อย่างมีความสุขไม่ต้องระวังอาการเจ็บปวดใดๆเมื่อบดเคี้ยวโดนเหงือกหรือฟัน และการพูดจาก็สามารถพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ติดขัดในขณะพูดคุย ดังนั้นสุขภาพช่องปากและฟันจึงถือได้ว่ามีความสำคัญมากๆ ต่อชีวิตประจำวัน

ซึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดีอยู่เสมอนั้น ควรเริ่มต้นจากตัวของเราเองก่อน โดยท่านสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

– แปรงฟันอย่างทั่วถึงให้ครบฟันทุกซี่ในช่องปาก กำจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน โดยการแปรงฟันอย่างถูกต้อง คือ การวางแปรงทำมุม 45 องศา กับแนวเหงือกแล้วใช้การปัดขนแปรงเบาๆ ไม่ใช้การถูกที่รุนแรง และควรจบด้วยการแปรงลิ้น โดยใช้วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องดังนี้ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ ตื่นนอน และ ก่อนนอน

– ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้งก่อนนอนหลังจากที่ทำการแปรงฟันแล้ว

– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม และหากว่าเป็นไปได้ควรงดของว่าง เช่น ขนมต่างๆ ออกไป แต่ถ้าหากว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ควรบ้วนปากหลังจากที่รับประทานทุกครั้ง

– ควรเลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสม เพราะ ฟลูออไรด์ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆในการที่ทำให้เคลือบฟันแข็งแรง

– การใช้น้ำยาบ้วนปาก ไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป หรือใช้ตามที่ทันตแพทย์แนะนำจะดี และปลอดภัยที่สุด

– สำหรับเด็กที่มีอายุตำกว่า 12 ปี ควรให้รับประทานน้ำที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ หรือ อาหารเสริมฟลูออไรด์


ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือ วิธีการดูสุขภาพของช่องปากและฟันเบื้องต้น กับการดูแลรักษา แต่ถ้าหากว่าท่านเริ่มมีความรู้สึกว่าเจ็บเหงือกหรือมีเลือดออกตามไรฟัน หรือว่ามีกลิ่นปากอยู่ตลอดเวลา อย่านิ่งนอนใจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆเด็ดขาด เนื่องจากว่า อาการเล็กๆน้อยเหล่านี้คือสัญญาณบ่งบอกสำคัญว่าสุขภาพช่องปากของท่านกำลังมีปัญหา ให้ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อให้ทำการรักษาตั้งแต่ที่ปัญหาเล็กๆ ดีกว่ารอให้ปัญหาเล็กๆเหล่านั้นสะสมจนเกิดปัญหาที่ใหญ่ เพราะสุดท้ายท่านอาจจะต้องสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไปเลยก็เป็นได้

12
ขั้นตอน การให้ อาหารสายยาง ทางจมูก !

การให้อาหารทางสายยาง สามารถให้ได้หลายทางขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยในกระบวนการให้อาหารว่าสามารถให้อาหารได้ทางไหน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมากที่สุด โดยอาหารปั่นผสมที่ได้ให้กับผู้ป่วย ก็ถอืว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่แพทย์จะต้องทำการพิจารณาดูว่า ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารชนิดใดได้บ้าง

หรือมีอาหารแพ้อาหารชนิดใดบ้าง เพื่อสั่งไปยังนักโภชนาการเพื่อออกแบบสูตรอาหารปั่นผสมให้เข้ากับผู้ป่วยที่จะรับอาหาร เพื่อใหเพียงพอและมีสารอาหารครบถ้วนแก่ร่างกายผู้ป่วย สำหรับการให้อาหารทางสายยางสามารถให้ได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารทางจมูก หรือบริเวณหน้าท้อง เพื่อส่งตรงไปยังกระเพาะอาหารโดยตรงนั่นเอง

การให้อาหารทางจมูก เป็นการให้อาหารทางสายยางรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะใส่สายยางผ่านทางจมูกและหลอดอาหารเข้าไปสู้พระเพาะอาหารโดยผู้ดูแล ซึ่งจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ต้องเปลี่ยนพลาสเตอร์ที่จมูกทุกวันเพื่อเป็นการสังเกตรอบกดทับระหว่างสายยางและจมูก หากสังเกตว่ามีความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขอย่างเร่งด่วน สำหรับอุปกรณ์ในการให้อาหารทางจมูก มี Syringe 50 cc สำหรับให้อาหาร อาหารปั่นผสม ชามรูปไต เหยือกน้ำสะอาด ยาและแก้วยา นี่ก็เป็นอุปกรณ์ฝนการให้อาหารทางสายยาง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

สำหรับขั้นตอนให้อาหารทางจมูก ผู้ดูแลจะต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แจ้งผู้ป่วยสห้ทราบก่อนจะให้อาหาร และทำการจัดท่าให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง หรือท่านั่งก่อนให้อาหารเพื่อให้สะดวกยิ่งขึ้น และควรดูดเสมหะก่อนในกรณีที่ผู้ป่วยมีเสมหะจำนวนมาก

ผู้ดูแลจะต้องล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง ตรวจดูปริมาณให้ตรงตามแผนการดูแล และที่สำคัญจ้องตรวจสอบว่าสายยางอยผุ่ในกระเพาะอาหารหรือไม่ หลังจากที่ให้อาหารเสร็จแล้ว ควรตรวจสอบการย่อยอาหารของผู้ป่วยด้วยว่าทำงานได้ดีหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน

13

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



15
พูดคุยเรื่องทั่วไป / Doctor At Home: วัณโรคปอด
« เมื่อ: วันที่ 6 กันยายน 2024, 18:13:30 น. »
Doctor At Home: วัณโรคปอด

ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยมากแล้วจะมีผลต่อปอด หรือที่เรียกว่า "วัณโรคปอด" ทั้งนี้ วัณโรคปอดเป็นโรคติดต่อและสามารถแพร่สู่คนผ่านละอองฝอยจากการไอและจามได้

วัณโรคปอดมีอาการอย่างไร

วัณโรคมีอยู่ 2 ประเภท คือ วัณโรคแฝง และ วัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบ คนที่มีวัณโรคแฝงจะไม่แสดงอาการและวัณโรคชนิดนี้จะไม่แพร่กระจายไปยังบุคคลอื่น อย่างไรก็ดี วัณโรคแฝงอาจกลายมาเป็นวัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบได้ และจำเป็นต้องได้รับการรักษาเช่นเดียวกัน ในขณะที่วัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบนั้นทําให้ผู้ป่วยมีอาการของวัณโรค และสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

ผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคระยะแสดงอาการหรือระยะกำเริบอาจมีอาการดังต่อไปนี้: 

    มีอาการไอเรื้อรังยาวนานถึง 3 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น
    ไอแล้วเสมหะมีเลือดปนออกมา
    มีอาการเจ็บหน้าอก ขณะหายใจหรือไอ
    มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
    มีน้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ
    มีอาการอ่อนเพลีย
    มีไข้ หรือมีเหงื่อออกในเวลากลางคืน
    รู้สึกหนาวสั่น
    รู้สึกไม่อยากอาหาร

โดยทั่วไปแล้ว วัณโรคอาจเป็นกันได้ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายนอกเหนือจากปอดก็ได้ เช่น ไต กระดูกสันหลัง หรือสมอง โดยจะมีอาการแตกต่างกันไปตามบริเวณร่างกายที่เกิด เช่น ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหลังหากวัณโรคลงกระดูกสันหลัง และผู้ป่วยอาจมีเลือดในปัสสาวะหากวัณโรคลงไต 

เมื่อต้องพบแพทย์

ผู้ป่วยวัณโรคปอดจะมีไข้ น้ำหนักลดโดยหาคำอธิบายไม่ได้ มีเหงื่อออกในเวลากลางคืน หรือไอเรื้อรังโดยนิยามคือมากกว่า 3 สัปดาห์ หากมีอาการเหล่านี้ ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที โดยแพทย์อาจใช้วิธีซักประวัติ ตรวจร่างกาย และผลปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อระบุสาเหตุของโรค 

สาเหตุของวัณโรคปอด

โดยทั่วไปแล้ว วัณโรคปอดมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ที่ทำให้เกิดโรค ที่รับผ่านกันมาจากละอองฝอยทางอากาศ วัณโรคเป็นโรคติดต่อ แต่ก็ไม่ได้ติดกันง่าย ๆ ซึ่งหมายความว่า ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะติดโรคจากคนใกล้ชิดหรือคนที่ทํางานด้วยกัน ไม่ใช่คนแปลกหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์จะได้รับเชื้อและเกิดวัณโรคง่ายกว่าคนทั่วไป เนื่องจากมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ นอกจากนี้ เชื้อวัณโรคบางชนิดมีการดื้อยา โดยเฉพาะกลุ่มยาไอโซไนอาซิดและไรแฟมพิซิน


ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดวัณโรคปอดมีอะไรบ้าง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคปอดมีหลายอย่าง เช่น: 

    มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากมีโรคบางอย่างหรือเข้ารับการรักษาบางประเภท เช่น เป็นเอดส์ หรือ กำลังทำเคมีบําบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง
    เดินทางหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคสูง
    กำลังใช้สารบางอย่าง เช่น สูบบุหรี่ ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
    ไม่มีบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ผู้ป่วยได้เข้าใช้บริการ
    อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค เช่น กำลังอาศัยอยู่หรือเคยทำงานในสถานพยาบาล หรือกำลังอาศัยอยู่ในหรืออพยพมาอยู่ในประเทศที่มีการติดเชื้อวัณโรคสูง หรือกำลังอาศัยอยู่กับผู้ที่ติดเชื้อวัณโรค

 
แพทย์วินิจฉัยวัณโรคปอดได้อย่างไร

โดยปกติแล้ว แพทย์มักเริ่มด้วยซักประวัติและการตรวจร่างกาย เช่น การตรวจต่อมน้ำเหลืองของผู้ป่วย หรือใช้หูฟัง (Stethoscope) เพื่อฟังเสียงในปอดขณะหายใจ นอกจากนี้ แพทย์อาจเลือกใช้การตรวจอื่น ๆ ด้วย เช่น การตรวจผิวภูมิต้านทานเฉพาะ การตรวจเลือด การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพถ่าย X-Ray และการตรวจเสมหะ 


แพทย์รักษาวัณโรคปอดอย่างไร

แพทย์มักเลือกใช้ยาในการรักษาวัณโรคปอด ซึ่งใช้เวลาในการรักษานานกว่าโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น การรักษาวัณโรคปอดอาจแตกต่างกัน ไปดังนี้: 
ยารักษาวัณโรคปอดที่ใช้บ่อยที่สุด

แพทย์อาจเลือกใช้ยารักษาผู้ป่วยที่เป็นวัณโรค ดังต่อไปนี้: 

    ไอโซไนอะซิด (Isoniazid)
    ริฟามพิน (Rifampin)
    เอทแทมบูท (Ethambutol)
    ไพราซีนาไมด์ (Pyrazinamide)

ทั้งนี้ แพทย์อาจสั่งยาเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นวัณโรคชนิดที่ดื้อยาแล้ว เช่น: 

    เบดาไคลีน (Bedaquiline)
    ไลน์โซลิด (Linezolid)


ก่อนพบแพทย์ ผู้ป่วยวัณโรคปอดควรเตรียมตัวดังนี้

    ทราบถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ก่อนพบแพทย์
    จดบันทึกอาการของโรคที่มี
    เตรียมรายการข้อมูลส่วนตัว เช่น มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง หรือประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ
    เตรียมรายการยา วิตามินหรืออาหารเสริมที่ผู้ป่วยเคยใช้หรือกำลังใช้
    เตรียมคําถามไว้ถามแพทย์


ต้องเจออะไรบ้างเมื่อต้องพบแพทย์

ในระหว่างการซักประวัติผู้ป่วย แพทย์อาจถามเกี่ยวกับ: 

    อาการและเริ่มสังเกตเห็นอาการเมื่อไร
    ผู้ป่วยมีเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์หรือไม่
    ผู้ป่วยเคยอาศัยอยู่ในต่างประเทศหรือเคยเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่
    ผู้ป่วยเคยอยู่หรือกำลังอาศัยอยู่กับคนที่เป็นวัณโรคหรือไม่


หน้า: [1] 2 3 ... 7