head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: รู้โรค รู้เรื่องวัคซีน Moderna  (อ่าน 104 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
    • ดูรายละเอียด
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: รู้โรค รู้เรื่องวัคซีน Moderna
« เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2024, 23:48:54 น. »
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: รู้โรค รู้เรื่องวัคซีน Moderna

โรคโควิด-19 คืออะไร

    เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสซาร์สโควี-2 (SARS-CoV-2)
    การติดต่อจากการสัมผัสกับละอองฝอยของน้ำลาย เสมหะ น้ำมูก ของผู้ติดเชื้อ ระยะเวลาตั้งแต่ได้รับเชื้อจนถึงเริ่มมีอาการป่วยประมาณ 2-14 วัน

อาการของโรค

    มีไข้หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส
    อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
    หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย
    ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว
    อาจรุนแรงจนมีอาการปอดอักเสบ และอาจเสียชีวิตได้
    ผู้ที่เสี่ยงจะมีอาการรุนแรงได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็ง หรือโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

วัคซีน Moderna คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

Moderna คือ วัคซีนชนิด mRNA ที่ใช้เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ที่เกิดจากเชื้อไวรัสซาร์สโควี-2 ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป

สารออกฤทธิ์ในวัคซีน Moderna คือ messenger RNA (mRNA) ที่ได้รับการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสซาร์สโควี-2 ในการผลิตโปรตีนชนิดหนาม (Spike protein) โดย mRNA จะฝังตัวอยู่ใน SM-102 lipid โดย mRNA ในวัคซีนจะสั่งให้เซลล์ในร่างกายสร้างโปรตีนหนาม (spike protein) ที่เหมือนกับโปรตีนหนามในเชื้อไวรัส ซึ่งเซลล์ในร่างกายจะสร้าง แอนติบอดี้ขึ้นมาเพื่อต่อต้านโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสซึ่งจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19

***เนื่องจากวัคซีน Moderna ไม่มีส่วนประกอบของตัวเชื้อไวรัส จึงไม่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ต่อร่างกาย

วิธีการฉีดวัคซีน Moderna

ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อที่บริเวณไหล่ 2 ครั้ง โดยเข็มที่สองจะฉีดห่างจากเข็มแรก 3-4 สัปดาห์
คำแนะนำและข้อควรทราบก่อนการฉีด Moderna

ห้าม ฉีดวัคซีนในกลุ่มต่อไปนี้

    ผู้ที่มีอาการแพ้ ตัวยาสำคัญหรือส่วนประกอบอื่นใดในวัคชีน (ผู้ที่มีประวัติแพ้ สารเติมเต็มใต้ผิวหนังเพื่อความสวยงาม  )
    ผู้ที่แพ้สารโพลีเอธิลีน ไกลคอล (Polyethylene Glycol: PEG) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มักอยู่ในยาและเครื่องสำอางหลายชนิด รวมถึงในวัคซีน Moderna ด้วย
    ผู้ที่แพ้สารพอลิซอร์เบต (Polysorbate) ซึ่งเป็นสารเคมีในยาและเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติคล้ายกับสารโพลีเอธิลีน ไกลคอลในวัคซีน Moderna มาก

คำเตือนและข้อควรระวัง แจ้งบุคลากรทางแพทย์ผู้ดูแลการฉีดวัคซีนก่อนการรับวัคซีน Moderna ดังนี้

    เคยมีประวัติการแพ้อย่างรุนแรง ที่อาจมีอันตรายต่อชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีนชนิดอื่นๆ     
    เคยมีประวัติการแพ้อื่น ๆ
    เป็นผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
    เคยเป็นลมหลังจากได้รับการฉีดยา
    หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือมารดาที่กำลังให้นมบุตร
    มีโรคประจำตัวขั้นรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้
    ได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่นมาก่อนหน้านี้
    กังวล ที่เกี่ยวเนื่องกับการได้รับวัคซีนชนิดนี้
    หรือรับประทานยาอื่นก่อนการฉีดวัคซีน และยาอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิผลของวัคซีนได้

คำแนะนำในการสังเกตอาการผิดปกติหลังได้รับวัคซีน

    ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดที่สถานพยาบาลภายหลังการได้รับวัคซีนอย่างน้อย 30 นาที และควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน
    หากมีอาการข้างเคียง ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนการรับวัคซีนครั้งต่อไป

อาการข้างเคียง

     ริมฝีปาก หน้า หรือลำคอบวม
     รู้สึกจะเป็นลม หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะ
    ใจสั่นผิดปกติ หายใจถี่ หายใจไม่สะดวก
    มีผื่นขึ้น

อาการข้างเคียงที่พบบ่อย**

    บวมแดงบริเวณรักแร้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
    อาการปวดหรือบวมแดงบริเวณตำแหน่งที่ฉีด รู้สึกอ่อนพลีย หนาวสั่น มีใข้

Remarks: **สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วันหลังฉีด
อาการข้างเคียงที่พบได้น้อย
Covid - Arm

    อาการบวม แดง คัน และเจ็บบริเวณที่ฉีดวัคซีนหรือใกล้เคียงร่วมด้วยได้ เช่น ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ เป็นต้น
    มักเกิดอาการภายใน 7 วันหลังรับวัคซีน ส่วนใหญ่หายได้เอง
    พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
    ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ หรือใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากินแก้แพ้ได้

การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจหรือเยื่อหุ้มหัวใจ

    อาการ  ได้แก่ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหรือเจ็บเวลาหายใจ ใจสั่น เป็นลม
    มักพบหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 7 วัน มีส่วนน้อยที่พบภายใน 30 วัน
    มักพบในวัยรุ่นและผู้ใหญ่อายุน้อย
    เกิดประมาณ 16 รายใน 1 ล้านโดสของการฉีดวัคซีน
    ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาหรือการพักผ่อน เช่น ยาต้านการอักเสบ NSAIDs ยา สเตียรอยด์ รวมถึงยา colchicine ผู้ป่วยหายเป็นปกติได้เกือบทั้งหมด

ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง

    มีผื่นทั้งตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก ใจสั่น วิงเวียน หรืออ่อนแรง หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรง

หากมีอาการรุนแรงจากการรับวัคซีนควรทำอย่างไร

    รีบไปโรงพยาบาล หรือติดต่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือ โทร 1669 เพื่อติดต่อสายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน

ผลต่อความสามารถในการขับขี่และการทำงานกับเครื่องจักร

    ไม่มีหรือมีผลกระทบน้อยมากต่อความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ และการทำงานกับเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม จึงควรพิจารณางดเว้นการขับขี่ยานพาหนะหรือใช้งานเครื่องจักรกลหากท่านมีอาการข้างเคียงหรือพบการผิดปกติ และใช้ความระมัดระวังตามความเหมาะสม   

วัคซีนโควิด-19 มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในทุกช่วงอายุ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคสหรัฐฯ (ACIP) จึงยังคงแนะนำให้ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์เดิม
วัคซีน Moderna กับเด็กและวัยรุ่น
คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่น

    สามารถฉีดได้ในเด็กอายุ 12-17 ปี
    ไม่ควรฉีดวัคซีน Moderna  พร้อมกับวัคซีนชนิดอื่น ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 14 วัน ยกเว้นการฉีดวัคซีนที่มีความจำเป็นเช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อเด็กถูกสัตว์กัด
    เด็กและวัยรุ่นหญิงที่มีประจำเดือน อยู่ในระยะหลังคลอด หรือให้นมบุตร สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้
    เด็กและวัยรุ่นที่หายจากโรคโควิด-19 หรือโรคแทรกซ้อนจากโรคโควิด-19 และโรคคาวาซากิ (MIS-A หรือ MIS-C) ควรเว้นระยะการฉีดห่างจากวันที่ตรวจพบเชื้อ 1-3 เดือน
    ผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการรักษาด้วยพลาสมา ควรได้รับวัคซีนทันทีเมื่อครบกำหนด 90 วัน

ข้อควรระวัง

    เด็กและวัยรุ่นที่มีอาการแพ้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงภายหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 หรือแพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรง ควรรับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อพิจารณาเลื่อน หรือเปลี่ยนชนิดวัคซีนในเข็มที่ 2
    หากเด็กและวัยรุ่นมีประวัติสัมผัสเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไป จนกว่าเด็กจะได้รับการตรวจยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโรคโควิด-19
    วัยรุ่นหญิงที่ตั้งครรภ์ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อมีอายุครรภ์มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป