แบบบ้านสไตล์วินเทจ แบบบ้านที่หลายคนคงได้ยินชื่อกันบ่อย ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่โฆษณาแบบ้านที่จะขาย หรือรีวิวการแต่งบ้านมากมายว่านี่คือสไตล์วินเทจ แล้วแท้จริงแล้วแบบบ้านสไตล์วินเทจคือแบบไหน มีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับเราหรือไม่ หากต้องการจะแต่ง บทความนี้จะสามารถไขคำตอบให้ได้อย่างแน่นอน
ทำความรู้จักแบบบ้านสไตล์วินเทจคืออะไร
อย่างแรกเรามาทำความรุ้จักกันก่อนครับว่าแบบบ้านสไตล์วินเทจคืออะไรกันแน่ มาดูที่ความมหายของคำกันก่อนครับ โดยวินเทจ (Vintage) มาจากคำว่า Vendage ในภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่าการบ่มไวน์ ซึ่งยิ่งบ่มนานเท่าไร ก็ยิ่งได้รสชาติดีและมีราคาสูง
เมื่อนำมาใช้ในการการตกแต่งบ้านแล้วก็จะหมายถึงการออกแบบและตกแต่งบ้านในแบบย้อนยุคที่ย้อนหลังไปอย่างน้อย 20 ปี และมีการดีไซน์พิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น คลาสสิก ซึ่งมักใช้ลวดลายที่ดูพลิ้วไหว อ่อนช้อย เช่น ลายดอกไม้ สำหรับสีที่ใช้ก็มักจะเป็นโทนสีอ่อนอย่างสีขาว ครีม แดงอ่อน เหลืองอ่อน และม่วงอ่อน ในส่วนรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์นั้นก็จะมีลักษณะคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ที่ลดทอนรายละเอียดลงมา
จุดเด่นของแบบบ้านสไตล์วินเทจ
1. บ้านมีรูปทรงเรขาคณิต
แบบบ้านสไตล์วินเทจส่วนใหญ่มักจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยมหรือหลังคาสามเหลี่ยม แล้วหลังคาหน้าจั่ว เนื่องจากการก่อสร้างบ้านในสมัยอดีตเมื่อ 20 ปีขึ้นไปทำได้ยาก ช่างที่มีความชำนาญมีน้อย รวมถึงเทคโนโลยียังไม่เทียบเท่าปัจจุบันทำให้บ้านในสมัยอดีตมีรูปทรงที่ง่ายๆ อย่างรูปทรงเรขาคณิต เป็นต้น
2. วัสดุในการก่อสร้างบ้านเป็นไม้หรืออิฐแดง
อย่างที่บอกไปว่าแบบบ้านสไตล์วินเทจ เป็นการตกแต่งบ้านให้เหมือนยุคเก่า ทำให้เทคโนโลยีการก่อสร้าง และวัสดุต่างๆ ไม่มีตัวเลือกมากนัก ไม้จึงเป็นวัสดุยอดนิยมในการสร้างบ้าน เนื่องจากสามารถหาได้ง่ายในป่าเขา นอกจากไม้แล้วอิฐแดงก็เป็นอีกวัสดุยอดฮิตที่นิยมนำมาสร้างบ้านสไตล์วินเทจ จึงสังเกตได้ว่าบ้านสไตล์วินเทจจะไม่มีการนำพวกโครงสร้างปูน เหล็ก และกระจกบานใหญ่เข้ามาเป็นประกอบ
สำหรับแบบบ้านสไตล์วินเทจในปัจจุบันนี้มีการประยุกต์เอาเทคโนโลยีมาช่วยให้คนที่อยากแต่งบ้านสไตล์วินเทจแต่งบ้านกันได้ง่ายขึ้น เพราะการจะหาวัสดุอย่างไม้หรืออิฐแดงนั่นย่อมยากและลงทุนสูงเกินไป จึงนำวอลเปเปอร์มาใช้แทนไม้จริงหรืออิฐแดงจริง รวมถึงอาจใช้กระเบื้องหินแทนหินจริงๆ ด้วย
3. โทนสีของบ้านต้องเป็นสีอ่อน ไม่ฉูดฉาด
ตกแต่งแบบบ้านสไตล์วินเทจจะสังเกตได้ง่ายๆ คือเรื่องของโทนสีของตัวบ้าน หรือโทนสีของเฟอร์นิเจอหรือของตกแต่งบ้านอื่นๆ มักจะมีโทนสีอ่อน สบายตา ไม่ฉูดฉาด เช่น สีพาสเทล สีขาว สีเหลืองอ่อน สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน สีน้ำตาลอ่อน สีม่วงอ่อน เป็นต้น
4. เฟอร์นิเจอร์แกะสลัก ลวดลายอ่อนหวาน
อีกหนึ่งจุดเด่นของแบบบ้านสไตล์วินเทจ ก็คือเฟอร์นิเจอต่างๆ ทั้งโซฟา ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ กระจกเงา กรอบรูป หรือของตกแต่งอื่นๆ มักจะมีการแกะสลัก มีรูปทรง และมีลวดลายที่อ่อนหวาน โค้งเว้า แต่ลายไม่ซับซ้อนจนเกินไป ในส่วนของโทนสีนั้นก็จะเป็นสีที่สบายตา ไม่ฉูดฉาด เช่น สีขาว สีเหลืองอ่อน สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน สีน้ำตาลอ่อน สีม่วงอ่อน เป็นต้น
5. เต็มไปด้วยของสะสมเก่าๆ
อีกของแต่งบ้านแบบบ้านสไตล์วินเทจที่เรามักจะเห็นเสมอก็คือของตกแต่งหรือของสะสมเก่าๆ เช่น สติกเกอร์ ไปรษณียบัตร แสตมป์ โปสการ์ด ฝาขวดน้ำอัดลม หนังสือพิมพ์ พิมพ์ดีด ตรายาง นาฬิกาโบราณ วิทยุ เป็นต้น มาประดับตกแต่งบ้านในรูปแบบต่างๆ เช่นตั้งใส่ในตู้โชว์ที่บ้าน หรือทำมาใส่กรอบรูปแล้วแขวนประดับในบ้าน วางเหนือตู้ รวมทั้งยังอาจเอามาเป็นลายโต๊ะ หรือประดับบ้านในมุมต่างๆ ด้วย
6. ใช้ผ้าม่านหรือผ้าคลุมโทนสีอ่อน ดูย้อนยุค
ผ้าม่านหรือผ้าคลุมโทนสีอ่อน เห็นแล้วรู้สึกเหมือนนั่งไทม์แมชชีนกลับไปในอดีตเกินกว่า 20 ปี คืออีกจุดเด่นของแบบบ้านสไตล์วินเทจ ซึ่งเราอาจนำผ้าพันคอเก่าๆของเรา หรือหาซื้อผ้าม่าน ผ้าห่มในลวดลายดอกไม้ ลายโค้งเว้าที่อ่อนหวานในโทนสีอ่อน อย่างสีขาว สีเหลืองอ่อน สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน สีน้ำตาลอ่อน สีม่วงอ่อน เป็นต้น มาใช้ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจก็ได้
หากถามว่าแบบบ้านสไตล์วินเทจ แท้จริงแล้วเหมาะกับใครก็คงต้องตอบว่าอาจจะเหมาะกับคนที่ชอบความสบายๆ ชอบอะไรหวานๆ แต่มีความชิค พร้อมดูอบอุ่นเวลาอยู่อาศัยนั่นเองครับ หากใครเห็นว่าเราต้องการบ้านแบบนี้อย่าลืมนำไปแต่งกันนะครับ
ขายบ้านโคราช: แบบบ้านสไตล์วินเทจคือแบบไหนกันแน่นะ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/homes2/